เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเชียงใหม่ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดย พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาจุดต้นเพลิงที่ทำให้เกิดไฟไหม้อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยพบว่า บ้านเรือนในชุมชนดังกล่าววอดไปทั้งหมด 30 หลังคาเรือน รถยนต์และทรัพย์สินอื่นๆ ได้ถูกไฟไหม้เสียหายหมดเช่นกัน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 10 ล้านบาท
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 23.20 น. วันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.เกษมสิทธิ์ ต่อกัน ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้ง มีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน เหตุเกิดในชุมชนสุสานช้างคลาน ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.อ.ชัยยุทธ เรืองนภาเพ็ญ ผทค.สภ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเชียงใหม่ และรถดับเพลิงของเทศบาลนครเชียงใหม่และของ อบจ.เชียงใหม่
ที่เกิดเหตุพบไฟไหม้ลุกลามไปข้างเคียงอย่างมาก รถดับเพลิงของเจดีย์งามเทศบาลนครเชียงใหม่ จึงประสานรถดับเพลิงมากกว่าสิบคัน เข้าระงับเพลิงไหม้ดังกล่าว ต่อมาเวลา 02.35 น. วันที่ 4 พ.ค. เจ้าหน้าที่สามารถดับเพลิงจนสงบ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง จากเหตุดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็น จนท.ดับเพลิง 2 ราย ถูกของมีคมบาด และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย จากการถูกไฟคลอก ซึ่งไม่สามารถระบุเพศและอายุได้ ทางร้อยเวรเจ้าของคดีประสาน มูลนิธิรวมใจ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชมหาราช เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลต่อไป
พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ที่เกิดเหตุพบศพ นางอ้อย ไม่ทราบนามสกุล เจ้าของบ้านต้นเพลิง ชุมชนสุสานช้างคลาน โดยมีพยานเห็นช่วงเกิดเพลิงไหม้ที่บ้านนางอ้อย ซึ่งนางอ้อยยังอยู่ในบ้าน และหนีออกมาไม่ทัน ตรวจที่เกิดเหตุเบื้องต้น ทราบว่าชุมชนแออัดสุสานช้างคลาน มีประมาณ 30 หลัง ใช้วัสดุก่อสร้างแบบง่ายๆ ส่วนใหญ่มีอาชีพเก็บของเก่าขาย ผู้ที่อยู่อาศัยมาจากหลายท้องที่ ไม่มีทะเบียนบ้าน
บ้านต้นเพลิงที่พยานเห็นเหตุการณ์ เป็นบ้านของนางอ้อย พักอาศัยอยู่คนเดียว โดยมักดื่มสุราและจุดเทียนไข เคยทำให้ไฟไหม้บ้านมา 3 ครั้ง แต่เพื่อนบ้านช่วยกันดับทัน วันเวลาเกิดเหตุ เพื่อนบ้านได้ยินเสียงร้องของนางอ้อย ดังเอะอะออกมาจากบ้านของนางอ้อย พร้อมกับมีเปลวไฟลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ไฟลุกลามไหม้ชุมชนแออัดหมดทุกหลัง จนกระทั่งเพลิงสงบ จึงพบศพนางอ้อยนอนตายอยู่บริเวณหลังบ้าน