สดจากสนามข่าว
โดย เฉลิมพร อยู่วงษ์อั๋น อดิษัยต์ พรวนพิมพ์ สราวุฒิ สีเพ็ชรใส
ภาพคลิปเหตุการณ์ชายหนุ่มวิ่งไล่แทงหญิงสาวอย่างไม่ยั้งจนบาดเจ็บสาหัส ก่อนวิ่งหลบหนีไป ภายในซอยสามเสน 4 กทม. ได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหี้ยมโหด
สาเหตุเกิดจากชายหนุ่มตามง้อขอคืนดีกับหญิงสาว แล้วเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง
โดยล่าสุดหญิงสาวเคราะห์ร้ายยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ร.พ.วชิรพยาบาล ส่วนหนุ่มโหดหลังถูกตำรวจกดดันไล่ล่าอย่างหนัก สุดท้ายก็รีบชิงเข้ามอบตัว
เหตุระทึกขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 พ.ค. ขณะชาวบ้านและร้านค้าในซอยสามเสน 4 ต่างตกใจเมื่อมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือของน.ส.วนิดา กาแก้ว อายุ 19 ปี ก่อนเห็นภาพชายหนุ่มถือกรรไกรวิ่งไล่ตามออกมาจากซอยบ้าน ก่อนทั้งคู่ยื้อยุดกันไปมา
แต่ไม่ทันที่ใครจะเข้าไปห้ามปรามหรือช่วยเหลือ ชายหนุ่มได้ใช้กรรไกรกระหน่ำแทงหญิงสาวหลายครั้ง จนทรุดตัวลงไปนอนจมกองเลือดกับพื้น ส่วนหนุ่มโหด รีบวิ่งหลบหนีไป
น.ส.วนิดาพยายามพยุงตัว ลุกเดินโซเซไปขอความช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็หมดแรงล้มลงที่หน้าร้านขายอาหาร
จนกระทั่งญาติและคนในซอยช่วยกัน อุ้มไปส่งโรงพยาบาล
เหตุการณ์ดังกล่าวกล้องวงจรปิดที่อยู่หน้าร้านค้าในซอยสามารถบันทึกไว้ได้อย่างชัดเจน ทั้งเหตุการณ์และหน้าตาของคนร้ายที่ก่อเหตุ
ต่อมาวันรุ่งขึ้นคลิปดังกล่าวถูกนำเผยแพร่ว่อนอินเตอร์เน็ต
หลังคลิปแพร่กระจายออกไป พล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. รีบสั่งการให้ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.พงษ์พันธุ์ วรรณภักตร์ ผบก.น.1 พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐ์ผล ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.ท.ปิติพันธ์ กฤษดากร ณ อยุธยา สว.สส.สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.1 ร่วมกันติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว
พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.ชนะสงคราม เผยว่า หลังเกิดเหตุพ่อของหญิงสาว ซึ่งมีอาชีพทำไส้กรอกอีสานส่งขาย ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ชนะสงคราม และระบุว่า หนุ่มโหดรายนี้คือ นายวรชัย ลีลาวัลลพ อายุ 33 ปี พนักงานรับส่งเอกสารบริษัทแห่งหนึ่ง ย่านคลองเตย ซึ่งคบหาเป็นแฟนกับลูกสาวมานานกว่า 1 ปี ก่อนเลิกรากันไป
วันเกิดเหตุนายวรชัยขี่รถจักรยานยนต์หวังมาเคลียร์ปัญหากับลูกสาว แต่ตกลงกันไม่ได้เลยโมโหชักมีดจะแทง ก่อนเปลี่ยนใจคว้ากรรไกรตัดไส้กรอกไล่แทงจนเจ็บสาหัส
จากการสอบสวนยังทราบด้วยว่า นายวรชัยมีบ้านพักอยู่ย่านเพชรเกษม
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงนำกำลังออกติดตามจับกุม แต่ไม่พบตัว จึงบอกให้พี่สาวนายวรชัยช่วยเกลี้ยกล่อมน้องชายให้มอบตัว
ด้านนางสังวร กาแก้ว อายุ 48 ปี มารดาของน.ส.วนิดาเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวคบหากับนายวรชัยมานานกว่า 1 ปี ตลอดเวลาที่คบกันมักมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง จนกระทั่งลูกทนไม่ไหวมาปรึกษาว่าอยากเลิกกับนายวรชัย จึงเรียกนายวรชัยและลูกสาว มาพูดจาตกลงกันที่บ้าน
ซึ่งนายวรชัยก็ยินยอมที่จะเลิกคบกับลูกสาว แต่ตนไม่ไว้ใจจึงให้ลูกสาวดร็อปเรียนแล้วส่งตัวกลับไปอยู่บ้านที่ จ.อุบลราชธานี
เมื่อลูกสาวกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดนานหลายเดือน ปรากฏว่าคนงานทำไส้กรอกอีสานมีไม่พอ สามีเลยให้ลูกสาวกลับมาช่วยงานที่บ้าน จนกระทั่งมาเกิดเหตุร้ายขึ้น
หลังถูกตร.กดดันไล่ล่าอย่าง หนัก ทั้งทางญาติๆ และเพื่อนฝูงคนรู้จัก สุดท้ายเมื่อ ช่วงสาย วันที่ 30 พ.ค. หลังหลบหนีอยู่ 3 วัน นายวรชัยก็รีบชิงเข้ามอบตัว ที่กก.สส.บก.น.1 ก่อนถูกคุมตัวมาสอบสวน
โดยนายวรชัยให้การอ้างว่า วันเกิดเหตุได้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ซึ่งแฟนสาวได้ด่าทอถึงบุพการีตน ทำให้บันดาลโทสะ จึงเดินไปหยิบมีดที่รถเข็นไส้กรอกมาจี้คอแฟนสาว แต่แฟนสาวดิ้นจนหลุด จึงคว้ากรรไกรเพื่อขู่ แต่ไม่มีเจตนาจะทำร้ายร่างกาย
ก่อนที่แฟนสาวจะวิ่งหนี และล้มลงทำให้กรรไกรเสียบเข้าไปที่ท้อง
สาเหตุที่ไม่ทิ้งกรรไกร เนื่องจากแฟนสาวยังคงตะโกนด่าทอบุพการีตลอดเวลา ซึ่งตนต้องขอโทษพ่อและแม่ของแฟนสาวด้วย
ต่อมาตำรวจควบคุมตัวนายวรชัยไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางประชาชนและชาวบ้านที่ทราบเหตุการณ์มามุงดูกันอย่างแน่นขนัด
เจ้าหน้าที่จึงต้องตั้งแถวกั้นคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ และให้นายวรชัยสวมเสื้อเกาะกันกระสุนและหมวกกันน็อกเพื่อความปลอดภัย
แต่ระหว่างนั้นก็ยังมีเสียงด่าสาปแช่งของชาวบ้านดังเป็นระยะ แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง จากนั้นจึงนำตัวนายวรชัยกลับไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
แม้ผู้ต้องหาจะอ้างอย่างไร แต่วงจรปิดที่จับภาพนาทีลงมือโหดได้อย่างชัดเจน ย่อมเป็นหลักฐานอย่างดีว่าอะไรเป็นอะไร


