ต้องห้าม!! เกาะที่ห้ามมนุษย์เข้าไปเหยีบเพราะทุกตารางนิ้วเต็มไปด้วยงูมีพิษ 4,000 ตัว แต่มนุษย์คนนี้พาเราไปสำรวจเกาะ และแผลเมื่อโดนงูฉกเท้า

เปิดแฟ้มลับ!? ดินแดนมรณะแห่งบราซิล "เกาะงูคลั่ง" ที่ทุกตารางฟุตเต็มไปด้วย..ความตาย!!!

นี่คือเกาะ Ilha da Queimada Grande หรืออีกชื่อหนึ่งคือ snake island (เกาะงูคลั่ง) ตั้งอยู่นอกชายฝั่งเซาเปาโลที่แสนโด่งดัง ของบราซิลเพียง 32 กิโลเมตร ซึ่งดูยังไงก็สรวงสวรรค์ชัด ๆ แต่ที่ไหนได้ ถ้าคุณย่างกายเข้าไปในที่แห่งนี้ คุณจะไม่มีชีวิตรอดออกมาอย่างแน่นอน

นั่นก็เพราะว่าที่นี่เป็นอาณาจักรของเหล่างูพิษนั่นเอง บนเกาะที่มีพื้นที่เพียง 0.43 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้ เป็นที่อยู่อาศัยของงูมากกว่า 4000 ตัว และหนึ่งในนั้น เป็นชนิดที่มีพิษร้ายแรงเป็นอย่างมากอยู่ 1 สายพันธุ์นั่นคือ golden lancehead viper หรืออีกชื่อ Bothrops

มันมีพิษรุนแรงกว่างูพิษชนิดอื่นถึง 5 เท่า เจ้างูพวกนี้ยังเป็นประเภทโจมตีแบบไม่เลือกหน้า และพิษของมันยังมีฤทธิ์ทำลายเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดอาการอาเจียน วิงเวียน และเสียชีวิตใน 1 ชั่วโมง และด้วยเหตุนี้รัฐบาลบราซิลจึงสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้าใกล้เกาะนี้เด็จขาด

ได้รับการสนับสนุน

เมื่อมาลองคำนวณดู นั่นก็หมายความว่าทุก ๆ 1 ตารางเมตร คุณจะเจอเข้ากับเจ้างูนี่ถึง 5 ตัวเลยทีเดียว

พิษของมันนั้นร้ายแรงมาก มีฤทธิ์ทำลายเนื้อเยื่อ หากมนุษย์โดนกัดเข้าไปก็จะมีสภาพเป็นแบบที่เห็นนี่ และนี่ยังถือว่าน้อยมาก

แต่ก็มีไม่น้อยที่ผู้คนแอบเข้าไปยอมเสี่ยงตายเพื่อไล่ล่าจับเจ้างูร้ายนี่ เพราะว่ามันเป็นที่แห่งเดียวที่จะสามารถเจอมันได้บนโลก ราคาค่าตัวของมันก็ไม่ถูกเลยด้วย มีราคาสูงถึง 1 ล้านบาท ($30,000 เหรียญสหรัฐ) ในตลาดมืด

ได้รับการสนับสนุน

การที่เจ้างูพวกนี้มีพิษมากกว่าสายพันธุ์เดียวกันบนแผ่นดินใหญ่นั้นยังเป็นที่สงสัยกัน แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่าด้วยที่มันขาดแคลนอาหาร จึงต้องเก็บรักษาพิษเอาไว้เพื่อจับนกอพยพกิน

และสาเหตุที่มีงูอยู่บนเกาะ ก็เชื่อกันว่า เมื่อประมาณ 11,000 ปีก่อนระดับน้ำทะเลลดลงถึงขนาดที่เกาะนั้นเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ จึงทำให้มีงูย้ายถิ่นไปอาศัยอยู่ที่เกาะแห่งนั้น

มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับเกาะแห่งนี้ และหนึ่งในนั้นก็เกี่ยวกับประภาคาร สิ่งก่อสร้างเดียวที่มนุษย์สร้างขึ้นบนเกาะแห่งนี้

แต่เรื่องเล่าที่สยองที่สุดมีอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องของชาวประมง เรือของเขาเกิดเสียและถูกกระแสน้ำพัดไปติดอยู่ที่เกาะแห่งนี้ หลายวันต่อมา มีคนไปพบร่างของเขาเละไม่เป็นชิ้นดีอยู่ในแอ่งน้ำที่เต็มไปด้วยเลือดไม่ไกลจากชายฝั่ง ร่างของเขานั้นเต็มไปด้วยรอยเขี้ยวของงู

ส่วนอีกเรื่องคือ เรื่องของผู้ดูแลประภาคารคนสุดท้ายที่จะอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้กับครอบครัวของเขา ลือกันว่า ฝูงงูนับร้อยบุกเข้าไปในประภาคารผ่านทางช่องหน้าต่าง ต่อมาร่างของเขาและภรรยาถูกพบเป็นชิ้นส่วนกระจายอยู่ทั่วเกาะ

อย่างไรก็ตามในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ประชากรของงูบนเกาะแห่งนี้ลดลงเป็นอย่างมาก คาดว่าน่าจะลดถึงร้อยละ 15 เนื่องจากโรคระบาดบางอย่าง ดังนั้นงูสายพันธุ์นี้จึงถูกระบุบว่าเป็นสัตว์ใกล้ศูนย์พันธุ์